AllKorea
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562
เมนูน่าลอง ของประเทศเกาหลี
เมนูน่าลอง ของประเทศเกาหลี
สาธารณรัฐเกาหลี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เกาหลีใต้ นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารพื้นเมืองที่อร่อยและน่าสนใจมาก ๆ อีกด้วย ซึ่งก็มีหลายคนที่เลือกเดินทางไปเที่ยวเพราะต้องการจะลิ้มรสอาหารเกาหลีกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวเกาหลีต้องมาส่องที่นี่กันก่อนเลยค่ะ จะได้ไม่พลาดอาหารเกาหลีอร่อย ๆ ที่ไปถึงเกาหลีสักครั้งแล้วต้องลิ้มลอง วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้คัดสรรเมนูอาหารสุดอร่อยแห่งแดนกิมจิมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ชึกซอก ต๊อกโบกี
ชึกซอก ต๊อกโบกี เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากในเกาหลี ด้วยเป็นหม้อกระทะร้อน สามารถรับประทานได้หลายคน มีรสชาติเผ็ด จัดจ้าน บางร้านเราจะสั่งความเผ็ดได้ว่าจะเอาเผ็ดมาก เผ็ดน้อย ในหม้อจะประกอบไปด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นมาม่า ไข่ต้ม ต๊อกโบกี ออมุก ผักนิดหน่อย บางร้านจะมีให้สั่งเสริมใส่ชีส ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความอร่อยให้กับคนที่ชอบทานชีสยิ่งขึ้นไปอีก เวลาทานพนักงานจะยกหม้อมาทั้งหม้อวางบนโต๊ะ ซึ่งมีเตาไฟฟ้าอยู่ด้านล่าง รอจนพนักงานบอกว่าทานได้ จึงเปิดฝาแล้วก็ลิ้มรสกันได้เลย ยิ่งถ้าได้รับประทานในช่วงอากาศหนาวเย็นจะยิ่งฟินสุด ๆ
2. ข้าวผัดกิมจิโรยหน้าชีส
อาหารเกาหลี
เอาใจคนรักชีสสุด ๆ กับเมนูนี้ ซึ่งตัวข้าวจะใช้ข้าวเกาหลีนุ่ม ๆ ผัดกับกิมจิรสเผ็ดนิดหน่อย ผสมสาหร่ายแห้ง ซึ่งจะมีความเค็มเล็กน้อย เชฟจะเอาชีสโรยหน้า แล้วพนักงานจะยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ซึ่งมีเตาไฟฟ้าอยู่ด้านล่าง รอจนชีสละลายแล้วจึงตักกินได้ กลิ่นของชีสจะหอมอบอวล รสชาติหวานมัน ผสมความเผ็ดเค็มจากข้าวผัดได้อย่างลงตัว
3. ไก่ตุ๋นโสม
เมนูไก่ตุ๋นโสม ถือได้ว่าเป็นอาหารพื้นเมืองเกาหลีที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ซึ่งร้านที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ก็คือร้าน Tosokchon Samgyetang ซึ่งเป็นร้านอาหารเกาหลีเก่าแก่ ตัวร้านเป็นบ้านไม้โบราณ ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Gyeongbokgung Station กรุงโซล เมนูเด็ดของที่นี่คือไก่ตุ๋นโสม ซึ่งตัวน้ำซุปจะหอมกลิ่นโสมอ่อน ๆ เนื้อไก่จะนุ่มหวาน ข้างในตัวไก่จะยัดไส้ด้วยข้าวเกาหลี โสม พุทธา และธัญพืช ยิ่งได้ทานคู่กับกิมจิรสชาติเผ็ดเปรี้ยวจะยิ่งอร่อย หรือหากใครชอบทานไก่ดำที่นี่ก็มีจัดเสิร์ฟเช่นกัน
4. หมูย่างเกาหลี
ไปถึงเกาหลีถ้าไม่ได้กินหมูย่างเกาหลีนี่ถือว่าพลาดมาก ๆ ค่ะ ซึ่งหมูย่างเกาหลีแบบต้นตำรับจะมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม ใช้เนื้อหมูคุณภาพดี สด ใหม่ นำมาคลุกเคล้าซอสสูตรพิเศษของแต่ละร้าน แล้วจึงไปย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ คราวนี้กลิ่นหอม ๆ ของหมูย่างก็จะลอยฟุ้ง กลืนน้ำลายลงท้องแทบไม่ทัน รอจนกว่าหมูจะสุก แล้วจึงนำมาวางบนผัก ใส่กิมจินิดหนึ่ง น้ำจิ้มเกาหลีเล็กน้อย แล้วม้วน ๆ เอาเข้าปากแบบเต็ม ๆ คำ อืม...มันเป็นความอร่อยที่คุณต้องลองเองกันสักครั้ง !
5. ไก่ทอดเกาหลีกับเครื่องดื่มเย็น ๆ
ไม่ว่าจะไก่ทอดที่ไหนก็ต้องยอมใจให้ไก่ทอดเกาหลีค่ะ ด้วยมีความกรอบนอกนุ่มใน กัดไปแต่ละคำจะได้ยินเสียงกรอบ ๆ แทบจะทุกอณูของชิ้นไก่ ยิ่งรสชาติยิ่งไม่ต้องพูดถึง อร่อยจนไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายได้อีกแล้ว เชฟจะนำไก่ไปหมักในซอสสูตรพิเศษ นำมาชุบแป้งเกาหลี ไข่ หรือเกล็ดขนมปัง ตามแต่สูตรของร้านนั้น ๆ จากนั้นก็นำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ให้เหลืองกรอบ แล้วนำมาราดด้วยซอสแบบต่าง ๆ มีทั้งหวานและเผ็ด แต่ที่เด็ดสุด ๆ ต้องสั่งซอส Honey Garlic หรือซอสเผ็ดแบบเกาหลี กินคู่กับเครื่องดื่มพื้นเมืองของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเบียร์หรือโซจู ก็อร่อยฟินเว่อร์วังอลังการเช่นกัน
6. บิบิมบับ
บิบิมบับ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "ข้าวยำเกาหลี" อาหารพื้นเมืองของคนเกาหลี โดยจะเป็นข้าวเกาหลีร้อน ๆ โรยหน้าด้วยผักต่าง ๆ ซึ่งมีการผัดและปรุงรสมาแล้ว ใครชอบเนื้อก็สามารถใส่เนื้อลงไปด้วยได้ ตักโคชูจัง (น้ำพริกเกาหลี) มาใส่นิดหน่อย หรือใครชอบเผ็ดก็ใส่เพิ่มได้ตามความชอบใจ จากนั้นตอกไข่ดิบ ไข่ดาว หรือไข่ลวกตามลงไป แล้วจึงคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน (ลองสังเกตว่าคนเกาหลีจะสามารถคลุกทุกอย่างให้เข้ากันได้ดีมากกว่านักท่องเที่ยว ^_^) แต่ต้องระวังไม่ไปจับกับชาม เพราะว่าส่วนใหญ่เมนูนี้จะเสิร์ฟในชามหินร้อน เมื่อคลุกทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ก็ตักเข้าปากได้เลย
7. คิมบับหรือข้าวห่อสาหร่าย
ในเวลาเร่งด่วนคนเกาหลีก็มักที่จะหาของกินที่ทานง่ายและสะดวก ซึ่งคิมบับก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่เล่น ซึ่งจะมีลักษณะเป็นข้าวห่อสาหร่าย ข้างในจะมีไส้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแตงกวาดอง ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ แฮม ฯลฯ ซึ่งโดยส่วนมากจะทำขนาดกะทัดรัด ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วพนักงานจะตัดเป็นชิ้นพอดีคำให้อีกทีหนึ่ง ราคาก็ไม่แพงค่ะ ประมาณชิ้นละ 1,000 วอน เท่านั้นเอง
8. ออมุกหรือโอเด้ง
คนเกาหลีจะเรียกเจ้าแป้งแผ่นผสมปลานี้ว่า "ออมุก" ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับลูกชิ้นปลา แต่ทำเป็นแผ่นบาง ๆ พับไปพับมาเสียบไม้ แล้วลวกให้สุกในหม้อน้ำซุป เราจะเห็นร้านขายออมุกนี้ทั่วไปในกรุงโซล โดยคนเกาหลีจะทานเจ้าออมุกเป็นอาหารทานเล่น หรือระหว่างมื้อ โดยจะกินกับน้ำซุปร้อน ๆ ยิ่งถ้าในช่วงหน้าหนาว เจ้าออมุกนี้จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษเลยทีเดียว
9. พาจอน
พาจอน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า พิซซ่าเกาหลี ซึ่งจะนำแป้งมาผสมกับต้นหอม แล้วนำไปทอดบนกระทะแบน ๆ จนสุก แต่ก็จะมีแบบอื่น ๆ ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบแป้งผสมซอสเกาหลีเผ็ด ๆ, ซีฟู้ด, มันฝรั่ง ฯลฯ และยังมีแบบที่นำผักต่าง ๆ มาชุบรวมทอดอีกด้วย โดยคนเกาหลีจะนิยมรับประทานเป็นมื้อหลัก สามารถหากินได้แบบจัดเต็มที่ตลาด Gwangjang กรุงโซล
10. มันดู
มันดู หรือเกี๊ยวแบบเกาหลี ข้างในจะยัดไส้ด้วยหมูและเครื่องเทศ รวมถึงผักต่าง ๆ ซึ่งจะมีทั้งแบบนึ่งและทอด ใครไม่ชอบน้ำมันก็สั่งแบบนึ่งมากินคู่กับซอสโชยุ แต่ถ้าหากอยากได้ความกรอบนอกนุ่มใน ก็สั่งแบบทอดมากิน ก็จะอร่อยคนละแบบ ส่วนร้านที่เป็นตำนานและโด่งดังสุด ๆ จากเรียลลิตี้โชว์ของเกาหลี ก็คือ ร้านพารือดา คิมซอนแซง ร้านนี้เขาเด็ดจริงทั้งเกี๊ยวและคิมบับ
11. ข้าวหมูผัดกระทะร้อน
เมนูนี้จะมีเฉพาะบางร้านค่ะ ซึ่งจะเป็นเมนูกระทะร้อน โดยจะราดซอสสูตรพิเศษของทางร้านลงบนกระทะร้อน ๆ วางข้าวสวยบนซอส แล้วจึงราดหน้าด้วยหมูผัดกลิ่นหอมฉุย แนะนำว่าให้ค่อย ๆ ตักทาน ไม่ต้องคลุกให้เข้ากันทั้งหมด เพราะซอสที่อยู่ด้านล่างจะเผ็ด ทำให้ทั้งจานเผ็ดร้อนจนเกินไป แต่ถ้าใครชอบเผ็ดก็ลุยโลด แอบกระซิบพิกัดนิดหนึ่งว่าเมนูนี้สามารถสั่งกินได้ที่ร้านพารือดา คิมซอนแซง เช่นกัน
วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562
วัฒนธรรมในการพูด
วัฒนธรรมในการพูด1. การทักทาย
คนเกาหลีทำ : การกล่าวคำทักทายและคำขอบคุณนั้น คนเกาหลีจะต้องก้มศีรษะคำนับเสมอ ส่วนการโค้งต่ำระดับไหนนั้น จะขึ้นอยู่กับความอาวุโสของอีกฝ่ายนั่นเอง
คนเกาหลีไม่ทำ : การกล่าวทักทายด้วยการโอบกอดในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำกับคนที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกหรือไม่ได้สนิทสนมกันพอสมควร นอกเสียจากเป็นการกอดเพื่อการล่ำลา
สำหรับในเรื่องของการทักทายของคนเกาหลีก็จะมีวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกันกับคนไทยอยู่มาก จะแตกต่างกันตรงที่คนเกาหลีจะก้มศีรษะ แต่บ้านเราจะเป็นการไหว้ แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมของประเทศตะวันตกก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การทักทายด้วยการกอดหรือการจับมือ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสนิทสนมระหว่างบุคคล แต่ถ้าพบกับผู้ใหญ่ก็ยังคงวัฒนธรรมการทำความเคารพไว้เสมอ
คนเกาหลีจะให้ความสำคัญ(เคร่ง)กับมารยาทการพูด การปฏิบัติต่อผู้ที่มีอายุมากกว่า อย่างมาก
2. การเรียกผู้อื่น
คนเกาหลีทำ : การเรียกคนที่ไม่รู้จักกัน หรือไม่รู้จักชื่อ จะใช้คำพูดที่เป็นการเกริ่นนำขึ้นมาก่อนไม่ได้มีคำเรียกบุคคลนั้นตายตัว เช่น ขอโทษนะคะ,ไม่ทราบว่า แต่บอาจจะใช้คำสรรพนามที่สามารถ ใช้เรียกได้เลย เช่น 아저씨 (อาจอชี) ซึ่งแปลว่า คุณลุง หรือ 아줌마 (อาจุมม่า) ซึ่งแปลว่า คุณป้า การเรียกคนที่มีอายุมากกว่า จะไม่เรียกชื่อเขา แต่จะใช้สรรพนามให้เหมาะสมกับเขาคนนั้น แต่ถ้าเรียกคนที่มีอายุน้อยกว่า หรือเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน สามารถเรียกชื่อได้ หรืออาจใช้สรรพนามแทนก็ได้เช่นกัน
การเรียกผู้อาวุโสอาจเติมคำว่า 님 (นิม : เป็นคำต่อท้ายที่แสดงถึงความเคารพหรือหมายถึงการให้เกียรติ หรือผู้ที่น่ายกย่อง) ต่อท้ายตำแหน่งหน้าที่การงานของบุคคลนั้น เช่น ครู,อาจารย์ (선생님 อ่านว่า ซอนแซงนิม) หรือเติมคำว่า “คุณ” (씨 อ่านว่า ชี) ต่อท้ายชื่อเต็มของเพื่อนร่วมงาน เพื่อความสุภาพมากขึ้น เช่น คุณฮานึล (하늘씨 อ่านว่า ฮานึลชี)
*เรามักจะได้ยินศิลปินจากค่าย SM Entertainment กล่าวขอบคุณประธานของค่ายอย่างคุณอีซูมานอยู่บ่อยๆและพวกเขาจะเรียกว่า “อีซูมานซอนแซงนิม” ซึ่งเป็นการเรียกที่ให้เกียรติและแสดงความเคารพ*
คนเกาหลีไม่ทำ : จะไม่เรียกคนที่ไม่รู้จักกันหรือไม่รู้จักชื่อว่า 너 (นอ) ซึ่งแปลว่า คุณหรือเธอ เพราะเป็นคำที่ใช้เรียกกันเฉพาะเพื่อนหรือคนสนิทเท่านั้น
ข้อแตกต่างระหว่างคนไทยกับคน เกาหลีอีกอย่างคือการเรียกชื่อ บ้านเราไม่ว่าจะสนิทกันมากหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถเรียกชื่อเล่นได้ ในขณะที่คนเกาหลีจะต้องเป็นคนที่สนิทสนมกันหรือได้รับ การอนุญาติจากอีกฝ่ายหนึ่งก่อนจึงจะสามารถเรียกชื่อเล่นกันได้
3.การพูดคุย
ในประเทศเกาหลี จะมีภาษาพูดที่มีระดับความสุภาพต่างกัน ซึ่งจะต้องใช้ให้ถูก ไม่พูดเป็นกันเองกับผู้ที่มีอายุมากกว่า โดยที่ไม่สนิทกัน และมีการพูดแบบเป็นทางการ
ตัวอย่าง การพูดในระดับต่างๆ
감사합니다. คม-ซา-ฮัม-นี-ดา ขอบคุณค่ะ (ผู้ที่อายุเยอะกว่า)
고맙습니다 โก-มับ-ซึม-นี-ดา ขอบคุณค่ะ (คนรู้จัก )
고마워요/고마워 โก-มา-วอ-โย/โก-มา-วอ ขอบใจ (เพื่อน คนสนิท)
ประเทศเกาหลีใต้
สาธารณรัฐเกาหลี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เกาหลีใต้ เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ มีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้ เมื่อเอ่ยถึงเกาหลีใต้ เชื่อว่าหลายๆท่านจะนึกถึง นักร้องเกาหลี หรือ K POP หรือ ละครเกาหลีใต้ที่ทำให้เราติดงอมแงมกันไป และทำให้เห็นความเป็นอยุ่ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต อาหารการกิน“แทฮันมินกุก” หรือเรียกสั้นๆว่า “ฮันกุก” หมายถึง ชาวฮั่นหรือชาวเกาหลี เกาหลีใต้ ได้รับสมญานามว่าเป็น “ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า (The Land of Morning Calm)” หรือ “โคโยฮัน อาชิมเอนารา” ในภาษาเกาหลี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียมที่สืบทอดต่อกันมายาวนานถึง 5,000 ปี
ประเทศเกาหลีใต้ตั้งอยู่ ละติจูดที่ 33 – 39 องศาเหนือ และ ลองจิจูดที่ 125 – 131 องศาตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมด 99,208 ตารางกิโลเมตร รวมพื้นที่ของน้ำ (ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ แม่น้ำ) ที่อยู่ภายในดินแดนนั้นด้วยโดย 70 เปอร์เซ็นต์ของประเทศเป็นภูเขาซึ่งขนาดเนื้อที่ของ ประเทศเกาหลีใต้นั้น ใหญ่เป็นอันดับที่ 108 ของโลก!
เกาหลีใต้เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมทางใต้ ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ และมีประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทะเลญี่ปุ่นและ ช่องแคบเกาหลีกั้นไว้ ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ล่อแหลมนี้เอง ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์จึงพบว่า ประเทศเกาหลีเคยตกเป็น อาณานิคมของประเทศญี่ปุ่น (ค.ศ. 1910)
จนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม โลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1945) คาบสมุทรเกาหลีได้ถูกแบ่งแยกเป็นสองส่วน คือ ตอนเหนือเป็นของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) และตอนใต้เป็นของสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)